ป.ป.ส. ชี้หลังผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัส Covid – 19 ขบวนการค้ายาเสพติดกลับมาเคลื่อนไหวมากขึ้น ทั้งการลักลอบนำเข้าตามแนวชายแดน การลำเลียงเข้าพื้นที่ตอนใน และการแพร่ระบาดในพื้นที่ หลังชะลอตัวมากกว่า 2 เดือน

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า ในห้วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งประเทศไทยและเมียนมาเริ่มมีการจับยึดยาเสพติดจำนวนถี่มากขึ้น ซึ่งจากการข่าวยาเสพติดดังกล่าวมีทั้งส่วนที่จะส่งผ่านไทยไปประเทศที่สามและมีส่วนที่แพร่กระจายในประเทศ ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากทั้งไทยและเมียนมาได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัส Covid - 19
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “ในช่วงที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาดของโรคนั้น การจับยึดยาเสพติดทุกตัวยาทั้งบริเวณพื้นที่ชายแดน เส้นทางลำเลียงพื้นที่ตอนใน และในพื้นที่แหล่งแพร่ระบาดลดลงอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวในการกระทำผิดลดลง มาจากการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ควบคู่กัน คือ การตรวจตราอย่างเข้มงวดตามแนวชายแดน ทั้งช่องทางปกติและช่องทางธรรมชาติ การห้ามเคลื่อนย้ายคนข้ามแดน การตั้งจุดตรวจคัดกรองตามเส้นทางระหว่างจังหวัด และการห้ามออกนอกเคหะสถานในเวลาค่ำคืน
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึงข้อมูลเฝ้าระวังของศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ส. (ศปก.ป.ป.ส.) พบว่าในประเทศสถิติจับกุมในเดือนมีนาคม – เมษายน 2563 มีการจับยึดยาเสพติด แยกเป็นยาบ้า 17.6 ล้านเม็ด ไอซ์ 1.3 ตัน และกัญชา 4.2 ตัน แต่ภายหลังที่มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสในเดือนพฤษภาคม 2563 เดือนเดียว มีการจับยึดยาเสพติดเพิ่มสูงขึ้น แยกเป็นยาบ้า 31 ล้านเม็ด ไอซ์ 310 กิโลกรัม และกัญชา 3.6 ตัน อย่างไรก็ตามยาเสพติดที่จับยึดได้นั้นส่วนใหญ่ถูกสกัดกั้นได้ตั้งแต่พื้นที่ชายแดน
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า ใน 1 - 2 สัปดาห์นี้ สำนักงาน ป.ป.ส. จะประชุมหารือกับหน่วยงานความมั่นคงในสังกัดกองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการเชิงรุกในการสกัดกั้นตามแนวชายแดน การสกัดกั้นเส้นทางลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนใน และการปราบปรามการแพร่ระบาดในพื้นที่ หลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัส Covid – 19 เพื่อไม่ให้ปัญหายาเสพติดย้อนกลับมาในระดับเดียวกับช่วงก่อนสถานการณ์โรค Covid – 19
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานได้ดำเนินการตามนโยบาย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้มอบให้ไว้เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 คือ “รัฐบาลต้องการให้เกิดการบูรณาการอย่างแท้จริงทั้งแผนงาน โครงการ งบประมาณ บุคลากร” โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการปรับแผนการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้เชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลเพื่อลดความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ หากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง