นายกฯเปิดแผนปฏิบัติปราบปรามยาเสพติด 2565 ขอทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกัน เพื่อสังคม-ลูกหลานปลอดภัย ชี้ประมวลยาเสพติดมีผลบังคับใช้แล้ว ให้ทุกหน่วยศึกษาทำแผนที่ชัดเจนรองรับ เพื่อให้มีเครื่องมือมากขึ้น เชื่อทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

เมื่อวันที่ : 9 ธ.ค. 2564 00:00
หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
18 ครั้ง
นายกฯเปิดแผนปฏิบัติปราบปรามยาเสพติด 2565 ขอทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกัน เพื่อสังคม-ลูกหลานปลอดภัย ชี้ประมวลยาเสพติดมีผลบังคับใช้แล้ว ให้ทุกหน่วยศึกษาทำแผนที่ชัดเจนรองรับ เพื่อให้มีเครื่องมือมากขึ้น เชื่อทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

prayut1-09-12-64-3.jpg
 

                 เมื่อเวลา 13.00 วันที่ 9 . ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต มีการจัดงาน “เปิดแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ..2565” โดยมี พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีพร้อมด้วย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม           นายอัลลัน แมคคินนอน เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย นายเจเรมี ดักลาส ผู้แทนสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก (UNODC) นายมาร์ค ชไนเดอร์ ผู้แทนหน่วยประสานงานยาเสพติดและอาชญากรรมต่างประเทศประจำประเทศไทย (FANC) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ..หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง แม่ทัพภาค 1-4    ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ผู้บัญชาการกองกำลังทหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด         ผู้บังคับหน่วยทหาร ศึกษาธิการจังหวัดและประธานกลุ่มเจ้าหน้าที่ประสานงาน ยาเสพติดระหว่างประเทศ รวมทั้งสิ้นประมาณ 500 คน

                 โดยภายในงานมีการรักษาความปลอดภัยและป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น ผู้เข้างานทุกคนจะต้องได้รับการตรวจ ATK ซึ่งใน          ช่วงแรก พล..ประยุทธ์ พร้อมคณะได้ เดินรับชมนิทรรศการผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติอประจำปี 2564 และรับชมวีดีทัศน์แผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ..2565
 

                จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้กล่าวรายงานว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญซึ่งมีผลกระทบ และเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ   ประชาชนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง รัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติด เป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องเร่งรัดดำเนินการ โดยให้ความสําคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และจัดทำประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้ในวันนี้ โดยให้ความสำคัญกับนโยบายตัวยาเสพติดที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และทางเศรษฐกิจได้ และการมองปัญหาผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพติดในมิติของปัญหาด้านสาธารณสุขและสุขภาพมากขึ้น มิใช่ถือว่าเป็นปัญหาทางอาชญากรรมอย่างเดียว รวมถึงการลงโทษผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ที่ได้สัดส่วนและความเหมาะสมกับความร้ายแรงของ               การกระทำความผิด การมุ่งเน้นการทำลายโครงสร้างหรือเครือข่ายการค้ายาเสพติดที่สำคัญ
 

                นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การดำเนินงานที่ผ่านมา ในปี2564 รัฐบาลได้เห็นผลสัมฤทธิ์ในการปราบปรามยาเสพติด โดย สำนักงาน          ..กระทรวงยุติธรรม ได้ตั้งเป้ายึดทรัพย์ 6,000 ล้านบาท แต่สามารถยึดทรัพย์ได้เกินเป้าถึง 7,300 ล้านบาท ซึ่งเมื่อมีประมวลกฎหมาย      ยาเสพติดใหม่จะทำให้การดำเนินการริบทรัพย์สินทำงานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมและสามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งการริบทรัพย์สินทดแทน    ทรัพย์สินตามมูลค่า และทรัพย์สินสกุลเงินดิจิทัล  ดังนั้นในปีงบประมาณ 2565 กระทรวงยุติธรรมกำหนดเป้าหมายตัวชี้วัดการทำงานจะเปลี่ยนเป็นจำนวนทรัพย์ มุ่งเน้นยึดทรัพย์ให้มากขึ้น สามารถยึดทรัพย์ย้อนหลังได้ถึง 10 ปี ต้องยึดทรัพย์ให้ได้ 10,000 ล้านบาท และเงินดังกล่าว       จะนำมาเป็นเงินสินบนต่อผู้แจ้งเบาะแส 5% หรือ 500 ล้านบาท สำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติติงาน จะได้รับเงินรางวัล 25% หรือ         2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินบนรางวัลที่ถูกต้องตามกฎหมาย
 

                 ด้านนายเจเรมี กล่าวว่า ขอชื่นชมรัฐบาลไทยในการปราบปรามยาเสพติด ในปีที่ผ่านมาถือว่ามีผลงานที่โดดเด่นในระดับโลก    UNODC พร้อมที่จะเป็นหุ้นส่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับประเทศไทย  ที่มีกลยุทธ์ต่างๆที่มีคุณภาพ            เราตั้งตารอแผนปฏิบัติงานในครั้งนี้ และพร้อมที่จะผ่านอุปสรรคต่างๆไปด้วยกัน
 

                  นายมาร์ค กล่าวว่า FANC พร้อมร่วมมือกับประเทศเป็นอย่างดีในการปราบยาเสพติด และของแสดงความยินดีกับ การทำงานของสำนักงาน ..ในปีที่ผ่านมา เราสนใจการทำงานในแผนปฏิบัติการนี้ และพร้อมที่จะร่วมมือในการทำงานกับประเทศไทย
 

                   ต่อมา พล..ประยุทธ์ ได้ กล่าวมอบนโยบายว่า ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านเป็นที่ทราบกันดีว่าปัญหายาเสพติดได้ทำลายสังคม ทำลายสถาบันครอบครัว ส่งผลเสียต่อความมั่นคงของชาติ ปัจจุบันประเทศไทยต้องประสบปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติด โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แม้จะมีการสกัดกั้นจับกุมได้เป็นจำนวนมาก แต่ยาเสพติดยังหลุดรอดเข้าสู่ประเทศไทย และผ่านไปยังประเทศที่ 3 ขณะเดียวกันการขนส่งยาเสพติดสามารถทำได้หลายช่องทาง เช่น จัดส่งพัสดุ การซื้อขาย และ          การชำระเงินยาเสพติดเปิดกว้างมากขึ้น  ด้วยการใช้โซเชียลมีเดียทำให้การลักลอบซื้อขายยาเสพติดสะดวกรวดเร็วขึ้น สำหรับการผลิต           ยาเสพติดยังคงมาจากแหล่งพื้นที่เดิม คือ สามเหลี่ยมทองคำ เวลานี้มีการขยายกำลังผลิตเพิ่มมากขึ้นเพราะผู้ผลิตยาเสพติดมีเทคโนโลยี       ที่ทันสมัย มีกำลังการผลิตสูงขึ้น ประกอบกับเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นที่มีจำนวนมากไม่จำกัด แต่ต้องขอยืนยันว่าประเทศไทยไม่เคยนิ่งเฉย     ในการแก้ปัญหาและยังคงเดินหน้าปราบปรามอย่างเข้มข้น มีการพัฒนากฎหมายซึ่งวันนี้ถือว่าเป็นการบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดเป็น    วันแรกรัฐบาลปรับปรุงและพัฒนาให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ และปรับปรุงบทบัญญัติให้สอดคล้องกับผลการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษว่าด้วยปัญหายาเสพติดโลก
 

                   "ผมขอมอบนโยบาย หลังจากที่ประมวลกฎหมายยาเสพติดบังคับใช้ 

                    1. ขอให้ผู้บริหารส่วนราชการทุกท่านทำความเข้าใจกฎหมายใหม่ฉบับนี้ 

                    2. ขับเคลื่อนสร้างความพร้อม มีแผนขั้นตอนในการทำงาน ติดตามแก้ไขปัญหาในระยะเปลี่ยนผ่านกฎหมาย 

                    3. นำประมวลกฎหมายยาเสพติดไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม มีความชัดเจน 

                   4. เจ้าหน้าที่ต้องอดทน เสียสละ ซื่อสัตย์ หากใครทุจริตต้องถูกลงโทษอย่างหนัก"นายกฯ กล่าว
 

                   พล..ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เราต้องมีแผนงาน คือ 

                   1. มาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งด้านการแลกเปลี่ยนข่าวสาร การประสานคดีระหว่างประเทศ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการสืบสวนสอบสวน และเรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่  

                   2. มาตรการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมายโดยใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดมาใช้บังคับ เพื่อนำไปสู่การยึดทรัพย์สินของผู้ค้า   ยาเสพติด 

                   3. มาตรการในการป้องกันยาเสพติดต้องป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปสู่การเสพหรือการใช้ยาเสพติด และป้องกันไม่ให้เข้าไปสู่กระบวนการค้ายาเสพติดโดยการเสริมสร้างความเข้มเข็งให้กับหมู่บ้านหรือชุมชน 

                   4. มาตรการบำบัดรักษายาเสพติด บำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ผ่านการบำบัด   

                   5. มาตรการบริหารจัดการอย่างบูรณาการ 

ให้ใช้กลไกของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) ในการขับเคลื่อน ท้ายที่สุดนี้การปราบปรามยาเสพติด      จะให้ องค์กรใด องค์กรหนึ่ง เป็นผู้รับผิดชอบคงจะไม่ได้ เราต้องบูรณาการร่วมกัน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน  เพื่อทำให้สังคมไทย        ลูกหลานของพวกเรา ปลอดภัยจากยาเสพติด และวันนี้ เป็นวันแรกที่ประมวลกฎหมายยาเสพติดประกาศใช้ถือได้ว่ามีเครื่องมือในการปราบปรามมากขึ้น ดังนั้นตนขออวยพรให้การปราบปรามยาเสพติดของพวกเราเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

prayut1-09-12-64-4.jpg
 

prayut1-09-12-64-6.jpg
 

prayut1-09-12-64-7.jpg
 

prayut1-09-12-64-5.jpg
 

prayut1-09-12-64-1.jpg
 


 

prayut1-09-12-64-2.jpg

YouTube Instagram TikTok X Threads search download
Q&A FAQ