ป.ป.ส. จับมือหน่วยงานภาคี ภายใต้โครงการสกัดกั้นยาเสพติด ตามสืบนศ.วิทยาลัยเอกชน ย่านนนทบุรี ใช้บิตคอยน์สั่งซื้อยาอีผ่านอินเตอร์เน็ตจากเนเธอร์แลนด์ ส่งทางพัสดุ มาขายให้เพื่อนวัยเดียวกัน

เมื่อวันที่ : 13 พ.ค. 2563 00:00
หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
11 ครั้ง
ป.ป.ส. จับมือหน่วยงานภาคี ภายใต้โครงการสกัดกั้นยาเสพติด ตามสืบนศ.วิทยาลัยเอกชน ย่านนนทบุรี ใช้บิตคอยน์สั่งซื้อยาอีผ่านอินเตอร์เน็ตจากเนเธอร์แลนด์ ส่งทางพัสดุ มาขายให้เพื่อนวัยเดียวกัน


 

 

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( เลขาธิการ ป.ป.ส.) แถลงว่าเมื่อวันที่ 8-10 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมาสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานภาคีภายใต้ภารกิจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Taskforce : AITF) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กรมศุลกากร และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ทำการสืบสวนติดตามและจับวัยรุ่นชายวัย 18 ปี 1 คน ซึ่งเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี พร้อมยาอี 10,000 เม็ดที่ส่งมาทางพัสดุจากเนเธอร์แลนด์

 

เลขาธิการ ป.ป.ส. แถลงรายละเอียดว่า จากการบูรณาการของหน่วยเกี่ยวข้องทำให้ทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ (ขอสงวนชื่อและนามสกุล เนื่องจากยังเป็นเยาวชน) มีพฤติกรรมลักลอบสั่งซื้อยาอีจากเนเธอร์แลนด์ผ่านทางอินเตอร์เน็ตโดยใช้เงินสกุลบิตคอยน์ จากนั้นยาอีจะถูกส่งมาโดยพัสดุทางอากาศ เพื่อนำมาจำหน่ายให้ลูกค้าที่ส่วนใหญ่จะเป็นนักเที่ยวกลางคืนและเยาวชนวัยเดียวกันในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยทำการค้ามาตั้งแต่ปี 2559 สำหรับยาอีที่สั่งเข้ามาขายเฉลี่ย 20,000 - 30,000 เม็ดต่อเดือน

 

สำหรับในครั้งนี้สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้สั่งซื้อยาอีเข้ามารวม 35,000 เม็ด และแบ่งการขนส่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรก 10,000 เม็ด (ถูกจับยึดในครั้งนี้) ส่วนที่สอง 25,000 เม็ด อยู่ระหว่างการขนส่งซึ่งจะจับยึดเพิ่มเติมเมื่อเดินทางมาถึง เมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้จึงนำตัวไปตรวจค้นเพิ่มเติมยังห้องซึ่งผู้ต้องหาเช่าอพาร์ทเม้นท์ ย่านรัตนาธิเบศร์ พบเครื่องอัดเม็ดยาอี หัวตอก เครื่องชั่งน้ำหนัก ไอซ์ และผงผสมอัดเม็ดยาอีซุกซ่อนในห้องดังกล่าว ผู้ต้องหารับว่าพยายามที่จะอัดเม็ดยาอีออกมาจำหน่ายเองแทนการสั่งซื้อจากต่างประเทศ จากนั้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาและจับตัวส่งดำเนินคดี

 

เลขาธิการ ป.ป.ส.  แถลงเพิ่มเติมว่ายาอีที่จำหน่ายในประเทศไทยเกือบทั้งหมดนำเข้าจากต่างประเทศ เครือข่ายยาอีที่นอกจากจะพบนักค้าชาวไทย ยังมีกลุ่มชาวแอฟริกันตะวันตก ชาวรัสเซีย และชาวจีน ร่วมกับคนไทย กระบวนการค้าจะทำโดยใช้การสั่งซื้อจากเว็ปไซด์ใต้ดิน โดยแหล่งต้นทางอยู่ในประเทศทางทวีปยุโรป ใช้เงินดิจิทอลทำการซื้อขายกัน และใช้การจัดส่งทางพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ โดยในห้วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จับกุมได้ 25 คดี ผู้ต้องหา 22 คน ของกลางยาอีรวม 268,312 เม็ด ส่วน ใหญ่มาจากเยอรมนี มากที่สุดรวม 15 คดี รองลงมา ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ 3 คดีโปรตุเกส 3 คดี ฝรั่งเศส 2 คดี เบลเยี่ยมและสโลเวเนีย อีกประเทศละ 1 คดี 

 

เลขาธิการ ป.ป.ส. แถลงในตอนท้ายว่า แม้กระบวนการกระทำผิดจะมีความสลับซับซ้อนและยากต่อการเข้าถึง แต่ด้วยการดำเนินงานตามนโยบายของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ทุกภาคส่วนร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และข้อเน้นย้ำของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ให้มีการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อปราบปรามการค้ายาเสพติด นำมาซึ่งความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และผู้ประกอบการภาคเอกชน จนนำไปสู่การจับผู้กระทำความผิดและยึดยาอีที่ถูกลักลอบส่งเข้ามาได้จำนวนมากข้างต้นจึงขอขอบคุณทุกหน่วยงาน/องค์กรมาในโอกาสนี้

 

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็น หรือสงสัยบุคคลที่มีพฤติกรรม เข้าไปเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติด ได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง
 

 


 


 


 


 
YouTube Instagram TikTok X Threads search download
Q&A FAQ