ข่าวผู้บริหาร
​ป.ป.ส. อบรมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับผู้ปฏิบัติงานควบคุมและกำกับดูแลการปลูกเฮมพ์ (กัญชง) เป็นพืชเศรษฐกิจ

17-5-61-chalinsin01.jpg 

     วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม 2561 เวลา 09.00 น. นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) มอบหมายให้ นายชลัยสิน โพธิเจริญ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมการปฏิบัติงานควบคุมและกำกับดูแลการปลูกเฮมพ์ (กัญชง) เป็นพืชเศรษฐกิจ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-18 พฤษภาคม 2561 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการควบคุม กำกับดูแลการปลูกเฮมพ์ (กัญชง) และพิจารณาอนุญาตเฮมพ์ (กัญชง) เพื่อให้การเพาะปลูกเฮมพ์ (กัญชง) เป็นพืชเศรษฐกิจเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศอย่างแท้จริง ผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วย คณะทำงานควบคุมและกำกับดูแลเฮมพ์ (กัญชง) ระดับจังหวัด จำนวน 8 จังหวัด (เชียงใหม่ เชียงราย น่าน ตาก แพร่ เพชรบูรณ์ ปทุมธานี และขอนแก่น) ชุดปฏิบัติการตรวจสอบเฮมพ์ จำนวน 14 อำเภอ และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. รวม 150 คน ณ โรงแรมดวงตะวัน เชียงใหม่ และศึกษาการปฏิบัติงาน ณ สถานีเกษตรหลวงปางดะ จังหวัดเชียงใหม่
    มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 6 กันยายน 2559 เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่ายหรือไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะเฮมพ์และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณากำหนดมาตรการควบคุมและกำกับดูแลให้เข้มงวด โดยจัดตั้งกลไกการควบคุมในระดับต่างๆคำสั่งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ที่ 7/2560 เรื่อง มาตรการควบคุมและกำกับดูแลเฮมพ์ (กัญชง) เป็นพืชเศรษฐกิจ ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2560 กำหนดให้ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด แต่งตั้งคณะทำงานควบคุมและกำกับดูแลเฮมพ์ ระดับจังหวัด 1 ชุด มีหน้าที่ในการปฏิบัติการควบคุม และตรวจสอบในพื้นที่จังหวัด และให้ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอแต่งตั้งชุดปฏิบัติการตรวจสอบระดับอำเภอ 1 ชุด มีหน้าที่ในการปฏิบัติการควบคุมและตรวจสอบในพื้นที่ระดับอำเภอ ทั้งนี้ ในปี พ.ศ.2561 มีพื้นที่ ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว จำนวน 4 จังหวัด 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสะเมิง ฝาง แม่วาง แม่แจ่ม หางดง จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน และอำเภอพบพระ จังหวัดตาก และอยู่ระหว่างยื่นขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจนถึงขณะนี้ มีจำนวน 5 จังหวัด 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และอำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ทั้งนี้มีพื้นที่อนุญาตมีไว้ครอบครอง จำนวน 1 จังหวัด ได้แก่ อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะต้องอบรมชี้แจงทำความเข้าใจกลไกการทำงานในพื้นที่ทั้ง 2 ระดับ ให้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีการขออนุญาตได้  
    การอบรมในครั้งนี้ ในส่วนของคณะทำงานควบคุมและกำกับดูแลเฮมพ์ (กัญชง) ระดับจังหวัด ประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดที่รับผิดชอบงานด้านยาเสพติด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน มีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดที่รับผิดชอบงานด้านยาเสพติด ปลัดจังหวัด ผู้แทนสำนักงาน ปปส.ภาคที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนเกษตรจังหวัด นายอำเภอในพื้นที่ที่มีการดำเนินการเรื่องเฮมพ์ (กัญชง) เป็นคณะทำงาน และหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ ศอ.ปส.จ. เป็นคณะทำงานและเลขานุการ ส่วนของชุดปฏิบัติการตรวจสอบเฮมพ์ (กัญชง) ระดับอำเภอ จะมีปลัดอำเภอที่รับผิดชอบด้านยาเสพติดเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอ ในพื้นที่รับผิดชอบ เป็นชุดปฏิบัติการ โดยมีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติการควบคุม ตรวจสอบการดำเนินการเรื่องเฮมพ์ (กัญชง) ในพื้นที่อำเภอเป็นไปอย่างถูกต้อง รวมถึงการตรวจสอบให้ผู้ได้รับอนุญาตดำเนินการเรื่องเฮมพ์ (กัญชง) ในพื้นที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด ตลอดจนทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่และข้างเคียง ให้เข้าใจกฎหมายและการปลูกเฮมพ์ (กัญชง)ในพื้นที่
   โดยในการอบรมจะได้นำผู้เข้ารับการอบรมลงพื้นที่สถานีเกษตรหลวงปางดะ เพื่อศึกษาการดำเนินงานการวิจัยและการปรับปรุงสายพันธุ์กัญชง การจัดระบบการปลูกเฮมพ์ ภายใต้ระบบควบคุมให้มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนา บินอล (Tetrahydrocannabinol – THC) ต่ำกว่า 0.3 % และวิธีการตรวจสอบหาปริมาณ THC ซึ่งเป็นกลไกการควบคุมและกำกับดูแลการปลูกกัญชงจากภาครัฐ ที่ได้กำหนดการขออนุญาตปลูก พื้นที่ปลูก และให้ใช้ประโยชน์ได้เฉพาะตามที่ได้รับอนุญาต และต้องมีการตรวจวัดปริมาณสาร THC ของกัญชงที่ปลูก ต้องไม่เกิน ร้อยละ 1.0 ต่อน้ำหนักแห้ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำกัญชงไปใช้ในทางที่ผิด แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการใช้ประโยชน์จากพืชกัญชงให้มากขึ้นด้วย

17-5-61-chalinsin02.jpg17-5-61-chalinsin03.jpg 

17-5-61-chalinsin04.jpg17-5-61-chalinsin05.jpg 

17-5-61-chalinsin07.jpg17-5-61-chalinsin06.jpg 

17-5-61-chalinsin09.jpg17-5-61-chalinsin08.jpg 



โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความคิดเห็น
1. โปรดงดเว้น การใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
2. ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้
3. ทีมงานเว็บมาสเตอร์ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
4. เพื่อให้การแสดงความคิดเห็นเป็นไปตามกฎกติกาที่วางไว้ ทางผู้จัดการออนไลน์ได้ปรับปรุงระบบการกรองคำให้เข้มงวดยิ่งขึ้น
กรุณารอสักครู่ ก่อนที่ความคิดเห็นของท่านจะถูกนำขึ้นแสดง
5. ผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นสามารถร่วมตรวจสอบข้อความที่ไม่เหมาะสมได้ โดยการกดปุ่ม "แจ้งลบ" หรือส่งอีเมลแจ้งมาที่ webmaster@oncb.go.th
ซึ่งทีมงานจะทำการตรวจสอบ และลบข้อความดังกล่าวโดยเร็วที่สุด หรืออย่างช้าภายใน 3 วันทำการ
แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม :
ชื่อ/e-mail ของคุณ :


 


ข่าวล่าสุด